YWC และ Dreamable การเดินทางของเยาวชนจากค่ายแห่งความรู้สู่การเป็น ‘ผู้ให้’ ที่พร้อมเปลี่ยนโลกดิจิทัลอย่างมั่นใจ และสร้างสังคมที่ดีขึ้นด้วยพลังแห่งการส่งต่อ

บางประสบการณ์เล็กๆ ในค่าย อาจกลายเป็น Coming of Age ที่เปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปตลอดกาล

กว่าสองทศวรรษที่โลกออนไลน์หมุนไปไม่หยุดนิ่ง ท่ามกลางกระแสข้อมูลที่ถาโถม ‘อินเทอร์เน็ต’ ในวันวานยังคงเป็นพื้นที่แห่งโอกาสและความท้าทาย ที่ต้องการคนรุ่นใหม่เข้ามาบ่มเพาะ สร้างสรรค์ และส่งต่อคุณค่าที่ดีออกไปในสังคม

แน่นอนว่าหากใครเป็นเด็กล่าค่าย หรือว่าสนใจเกี่ยวกับเว็บไซต์อาจเคยได้ยินชื่อของ ‘Young Webmaster Camp’ หรือ ‘YWC’ ค่ายที่จัดโดยสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย (THAI WEBMASTER & ONLINE MEDIA ASSOCIATION: TWA) กันมาอย่างแน่นอน กับในค่าย TCF Dreamable 2025 (Incubation for Lifelong Learning) ของมูลนิธิไทยคมในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ปีนี้เราผนึกกำลังสร้างสรรค์และบ่มเพาะเยาวชนผ่านค่ายในครั้งนี้ โดยที่มีใจกลางการออกแบบการเรียนรู้เช่นเดียวกัน คือการอยากให้เด็กๆ สนุก ได้เรียนรู้จนเจอความชอบของตัวเอง และต่อยอดไปจนเชี่ยวชาญและสามารถมาส่งไม้ต่อให้กับเยาวชนรุ่นถัดไป

วันนี้เราคุยกับ คุณเติ้ล-ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน บรรณาธิการบริหาร Spaceth.co และกรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย และคุณจาบอน-จามิกร ผิวละออง กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทยเช่นเดียวกัน ถึงความเป็นมาของการออกแบบการเรียนรู้ในค่าย Dreamable ของปีนี้

คุณจาบอน ย้อนความไปว่า YWC ถือกำเนิดขึ้นในยุคที่อินเทอร์เน็ตยังเป็นเรื่องใหม่และน่ากังวลสำหรับผู้ปกครอง ด้วยวิสัยทัศน์ที่เชื่อว่า “เราคงไม่สามารถสร้างสังคมที่ดีและมั่นคงในอนาคตได้แค่พวกเรากันเอง” ดังนั้นการดึง ‘เยาวชน’ เข้ามาบ่มเพาะจริยธรรมและสร้างเครือข่ายจึงเป็นหัวใจสำคัญ

ซึ่งทางคุณเติ้ลก็เสริมว่า แก่นแท้ที่ทำให้ YWC คงอยู่ได้ยาวนานคือ ‘วัฒนธรรมการส่งต่อ’ ที่อาจเทียบได้กับ ‘วงล้อสปริง’ ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง กล่าวคือ ผู้ที่เคยผ่านค่ายไปแล้วมักอยากกลับมาเป็นผู้ให้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ YWC สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เสมอ ไม่ว่าจะเจอความท้าทายแบบไหน

ทั้งสองท่านแชร์ถึงการจัดค่าย YWC ที่ก็มีกระบวนการ ความท้าทาย และมีเด็กๆ เยาวชนเป็นสูนย์กลางการเรียนรู้ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับค่าย Dreamable ดังนั้นเราล้วนมีความท้าทายไม่ต่างกัน

ดังเช่นเมื่อโลกก้าวสู่ยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ นั่นอาจไม่ได้ทำให้โลกเราของเราถูกทำให้ชะงักลง แต่นั่นอาจหมายถึงการเสาะหาโอกาสของความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำคัญที่ว่าเราต้องใช้มันให้ถูกวิธี และแน่นอนว่าโลกของเทคดนโลยีมันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ย่างไร

ประสบการณ์จาก YWC ได้ถูกส่งต่อและปรับใช้ใน TCF Dreamable 2025 ซึ่งเป็นค่ายที่คุณเติ้ลและคุณจาบอนได้มีส่วนร่วมในฐานะที่ปรึกษา โดยการร่วมมือกับมูลนิธิไทยคม ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ที่ตรงกันในการพัฒนาเยาวชน

“เราได้รับโจทย์จากทีมไทยคมให้มีช่วยออกแบบกระบวนการของค่าย ซึ่งเหนือจากความรู้และประสบการณ์ที่น้องๆ จะได้รับแล้วนั้น เรายังเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของทุกคน แม้กระทั่งกับทีมงานหลังบ้านเองก็ตาม” คุณเติ้ลว่า

ทางคุณจาบอนเสริมว่า “สิ่งที่เราอยากให้น้องได้มากกว่าความรู้คือการสร้างวงสังคมต่างๆ ผ่านการให้ทุนเพื่อเปิดโอกาสสนับสนุนเด็กๆ ได้ลงมือทำอย่างที่อยากจริงๆ ซึ่งนี่เป็นแนวทางที่นอกเหนือไปจากการจัดค่ายแบบเดิมๆ มันดีมากเลย”

สำหรับทั้งสองท่านแล้ว พวกเขาสัมผัสได้ถึงความมุ่นมั่นตั้งใจของมูลนิธิไทยคมที่มองค่ายนี้เป็น ‘ภารกิจในการรวบรวมผู้คน’ ซึ่งเป็น ‘การลงทุนในระยะยาว’ ในการพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ อย่างทางคุณจาบอนเองก็รู้สึกประทับใจเด็กๆ ในค่ายที่มีทั้งพลังและความมุ่งมั่นตั้งใจ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่มีการติดตามผลจากที่เรียนรู้ไป ซึ่งนั่นจะทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ทั้งคู่ปรารถนาให้น้องๆ ได้รับจากค่ายนี้ไม่ใช่แค่ความรู้ แต่คือ ‘การเป็นผู้ให้’ และ ‘ปรัชญาการดำเนินชีวิต’ คุณจาบอนเชื่อว่า “ในวันที่น้องอาจจะลืมไปแล้วว่าเราสอนอะไรไป… สิ่งหนึ่งที่ควรจะติดตัวน้องในหัวใจไปคือการเป็นผู้ให้” โดยยกตัวอย่างว่า บางประสบการณ์เล็กๆ ในค่ายอาจกลายเป็น Coming of Age ที่เปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปตลอดกาล

‘Dreamable’ จึงไม่ใช่แค่ค่ายฝึกอบรม แต่เป็นพื้นที่แห่งการบ่มเพาะและส่งต่อ โดยมีมูลนิธิไทยคม เป็นกำลังสำคัญในการจุดประกายและสนับสนุน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ เติบโต และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกดิจิทัลในแบบของตัวเองต่อไป

ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คุณคิดว่าการสนับสนุนจากองค์กรเอกชนมีความสำคัญอย่างไรในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน?