คุยกับ มุมิน แวอาลี และ ธนิน ลิมปะพันธุ์ สองสมาชิกจากชมรม CUHAR จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับภารกิจเปลี่ยนเรื่องจรวดให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
คุณเคยรู้สึกว่าเรื่องของนาซ่า หรือการสร้างจรวดเป็นเรื่องไกลตัวไหม? ไม่แปลกเลยที่คุณอาจเคยคิดแบบนั้น เพราะเรื่องเหล่านี้ดูเป็นสิ่งที่อยู่บนฟ้าและคนธรรมดาอย่างเราๆ ยากที่จะเอื้อมถึง
แต่ความคิดพวกนี้ทำอะไรไม่ได้กับพวกเขา – CUHAR กลุ่มชมรมที่สร้างจรวดจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มองว่าเรื่องของเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม
“ตอนแรกรุ่นพี่ของเราแค่อยากทำอะไรที่มันอยู่สูงๆ” ธนิน ลิมปะพันธุ์ เริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นของชมรม CUHAR (Chulalongkorn University High Altitude Reseach) ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มนิสิตผู้สนใจด้านเทคโนโลยีที่ไม่ได้อยากเรียนรู้แค่ในห้อง แต่ลงมือทำจริง เหมือนกับแนวทางของ JPL ห้องแล็บในตำนานของนาซ่า ที่ริเริ่มจากเหล่านักเรียนที่มีความสนใจจนมีผู้ใหญ่มาเห็น เกิดการส่งเสริม ตั้งห้องแล็บขึ้น รวมถึงศึกษาเทคนิคต่าง ๆ นอกเหนือจากในห้องเรียน

ซึ่งสำหรับ CUHAR เองก็ไม่ต่างกัน และชมรมยังได้ดำเนินการสานต่อทั้งแนวคิดและความฝันจนเข้าสู่ปีที่ 4
“ตอนแรกพี่ๆ ทำบอลลูนกัน แต่ไปเจอการแข่งขันจรวดระดับโลก เลยรู้สึกว่ามันท้าทายกว่า รวมองค์ความรู้หลายแขนง ทั้งอิเล็กทรอนิกส์ โครงสร้าง แอร์โรไดนามิกส์ เลยตั้งใจไปทางนี้เต็มตัว”
พวกเขาจึงริเริ่มสร้างจรวดอย่างจริงจัง เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติอย่าง Spaceport America Cup ในทุกปี แต่ถึงอย่างนั้น CUHAR ก็ไม่ใช่แค่ชมรมทำจรวด แต่คือชุมชนของการเรียนรู้ ที่รวมคนจากหลากหลายคณะ มาทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงลงมือประกอบและทดสอบจรวดจริง รวมถึงเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับรุ่นถัดไป
“เรามีทั้งทีมเทคนิค และทีมที่ดูแลเรื่องการจัดการ โดยเรารับรุ่นน้องปี 1 ปี 2 เข้ามาเทรน ส่งต่อองค์ความรู้ และสร้างทีมให้แข็งแรงขึ้นทุกปี มีกิจกรรมสร้าง bonding มี workshop ที่เหมือนเก็บสกิลในเกม เช่น การใช้โปรแกรมวิเคราะห์ การใช้ 3D Printer หรือ CNC ทำให้แม้แต่น้องที่ไม่เคยจับเครื่องมือมาก่อน ก็เริ่มต้นได้” มุมิน แวอาลีกล่าวเสริม

หนึ่งในความตั้งใจของทีม คือการทำให้เรื่องจรวดไม่ใช่เรื่องของ ‘เด็กเนิร์ด’ แต่เป็นเรื่องที่ ใครก็เข้าถึงได้ ซึ่งเป็นทั้งความสนุกและท้าทาย
พวกเขาจึงเริ่มออกแบบกิจกรรม ‘Outreach’ กับเยาวชน ซึ่งเมื่อได้ไปจัด workshop ให้กับน้องๆ มัธยม เช่นที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เห็นเลยว่าเด็กๆ สนใจจริงๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ในหนังสือหรือ การดูในยูทูป แต่มันคือของจริง ที่จับต้องได้ และเห็นผล
ยิ่งไปกว่านั้นในการสร้างชุมชนในระยะยาว น้องๆ ยังมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการพัฒนาเชิงเทคนิคและเทคโนโลยีแล้ว การพัฒนากำลังคนก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งพวกเขาได้มีนิสิตที่ขึ้นมาเป็น Project Manager ใหม่ๆ แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพในทุกปีก็เพราะการส่งต่อทั้งความรู้และแรงบันดาลใจจากรุ่นสู่รุ่น และการลงมือทำ ‘ความฝัน’ ให้เป็น ‘ความจริง’
“ว่ากันตามตรง ไม่ว่าผม มุมิน หรือทุกคนในทีมเองก็ตาม พวกเราล้วนจุดประกายจากการเห็นรุ่นพี่สักคนทำเรื่องนี้ คือมันเป็นมากกว่าความฝันแต่ยังมีหนทางพัฒนาให้เป็นอาชีพได้ด้วย เลยเป็นแรงบันดาลใจของพวกเราครับ” ธนินว่า
และเมื่อได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Dreamable พร้อมการสนับสนุนจากมูลนิธิไทยคม ทีม CUHAR จึงนำแนวคิดเรื่องการสื่อสารวิทยาศาสตร์มาใช้ โดยตั้งคำถามว่า “ทำอย่างไรให้จรวดไม่ใช่เรื่องเข้าใจยาก” จึงเกิดเป็นแนวทางใหม่ ที่ไม่ได้เน้นแค่เทคนิคหรือการแข่งขัน แต่รวมถึงการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ให้ทุกคนมองเห็นว่าเรื่องวิทยาศาสตร์และอวกาศ ไม่ได้ไกลเกินฝัน อีกทั้งพวกเขายังมองว่าการมีโครงการ incubator ยังสำคัญมากจริงๆ เพราะจะยิ่งจุดประกายความฝันและสร้างแรงบันดาลใจ จนสามารถเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้จริงๆ

ดังนั้น CUHAR จึงไม่ได้สร้างแค่จรวด แต่กำลัง ‘สร้างชุมชน’ ที่ความฝันของทุกคนได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยโครงสร้างชมรมที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้รับรู้ ได้ลอง และได้เชื่อว่าตัวเองก็สามารถสร้างอะไรบางอย่างให้ ‘ลอยขึ้นไปสูง’ ได้เหมือนกัน

เพราะในท้ายที่สุด ความฝันไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในท้องฟ้า บางทีมันก็เริ่มต้นจากห้องเล็กๆ ในมหาวิทยาลัย แล้วค่อยๆ เติบโตจนทะยานขึ้นฟ้าด้วยสองมือของคนธรรมดานี่เอง
และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีไอเดียอยากสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร อยากลองสร้างการเรียนรู้และชุมชนที่เหนียวแน่นแต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ อาจลองมาสมัครที่โครงการ Dreamable ของมูลนิธิไทยคมได้เช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านี้ รับรองว่าสิ่งที่ได้ประสบการณ์กลับไปไม่ใช่แค่แนวคิดและแรงบันดาลใจ แต่ยังรวมไปถึงการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถเอาไปต่อยอดเป็นโครงการของตัวเองที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ในอนาคต











