เปิดฉาก TCF Dreamable 2025 เส้นทางการเรียนรู้ของเยาวชนไทยผู้ฝันไกล และพร้อมเปลี่ยนแปลงโลก
‘TCF Dreamable 2025’ (Incubation for Lifelong Learning) โครงการบ่มเพาะเยาวชนนักริเริ่มโดยมูลนิธิไทยคม (Thaicom Foundation) กลับมาอีกครั้งในปี 2568 พร้อมการรวมตัวของเยาวชนไทย 71 คนจากทั่วประเทศ ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมเข้มข้นตลอด 3 เดือนเต็ม เพื่อเรียนรู้ทักษะสำคัญของการเป็น ‘Initiator’ หรือ ‘นักเริ่มต้น’ ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว






สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 14–15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอันเข้มข้นกับกิจกรรม Kickoff Camp ที่ Agoda Bangkok centralwOrld ซึ่งอัดแน่นด้วยเวิร์กช็อป บทสนทนา และโจทย์ท้าทาย ที่ออกแบบมาเพื่อปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ เปิดมุมมองใหม่ และฝึกให้เยาวชน ลงมือทำ อย่างเป็นระบบตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
พลังของ ‘วันแรก’ : เปิดพลังไอเดีย จุดประกายความฝัน
ในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 คือวันแห่งการละลายพฤติกรรมและหลอมรวมพลังคิด น้องๆ จึงได้เริ่มต้นด้วยการแชร์ไอเดียเปลี่ยนโลกจาก 2 หัวข้อใหญ่อันเป็นโจทย์ของปีนี้อย่าง ความยั่งยืน (Sustainability) และ สุขภาพใจ (Mindfulness) ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิด ความอยาก หรือความฝันลอยๆ แต่เป็นฝันที่พร้อมถูกท้าทาย ตรวจสอบ และต่อยอดให้กลายเป็นรูปธรรมจากความตั้งใจ









เราจึงเนรมิตพื้นที่นี้ให้กลายเป็นสนามเข้าสู่การตั้ง ‘พรรค’ โดยมีเมนเทอร์รับบทเป็นหัวหน้าพรรค พาน้องๆ ร่วมอ่านไอเดีย ถกเถียงในสภาจำลอง เพื่อโหวตคัดเลือกไอเดียที่น่าสนใจและสอดคล้องกับปัญหาที่น้องๆ สนใจที่สุด โดยให้เหลือเพียง 12 และ 10 ไอเดียเพื่อสานต่อตามลำดับ












ซึ่งในกระบวนการคัดเลือกนี้ไม่ใช่เพียงการกรองไอเดียที่ดีที่สุด แต่ยังออกแบบให้เยาวชนได้เรียนรู้ผ่านบทบาทจำลองในโลกการทำงานจริง ตั้งแต่การ สมัครเข้าร่วมทีมสตาร์ตอัพจำลอง ไปจนถึงการสมัครเป็น CEO และขายไอเดียให้คนอื่นเข้ามาร่วมทีมร่วมฝันกับตัวเอง เพื่อซื้อใจคนทำงานร่วมกัน






วันที่สอง : จากปัญหา สู่ไอเดีย ต่อยอดเป็นต้นแบบความคิดสร้างสรรค์
ต่อมาวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เราเริ่มต้นวันด้วยพลังความรู้จากทีมเมนเทอร์ระดับประเทศจาก F11 ได้แก่ คุณชาคริต จันทร์รุ่งสกุล (CEO FireOneOne), คุณอรณา อนันตชินะ (F11 BETA, Incubation Program for Early Stage Founders & Ventures) และคุณภูริชญา จิรายุทัต (F11 BETA, Incubation Program for Early Stage Founders & Ventures)


โดยพี่ๆ มาแชร์กรอบคิดและกระบวนการทำงานสไตล์สตาร์ตอัพผ่าน Session หลักอย่าง Construction Problem Statement และ User Interview ที่ชวนให้เยาวชนตีโจทย์ให้ชัดเจนจากมุมมองของผู้ใช้จริง ก่อนที่จะมอบกรอบสำคัญในการคิดงานอย่างสร้างสรรค์อย่าง
“[กลุ่มเป้าหมาย] ต้องการ [ทำสิ่งที่ต้องทำ] เพราะ [สาเหตุหลัก] ถ้าไม่มีทางแก้ [ผลที่ตามมา]”
นั่นคือกรอบสำคัญที่น้องๆ ต้องนิยามให้ได้ ก่อนจะนำไปสู่กิจกรรมภาคปฏิบัติอย่าง การสัมภาษณ์ผู้ใช้จริง ที่ได้รับการสนับสนุนจากทีมไทยคมในบทบาท Facilitator คอยช่วยเหลือน้องๆ ให้ตั้งคำถามอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงพักกลางวัน









และเมื่อกลับเข้าสู่ห้องเวิร์กช็อปในช่วงบ่าย ก็ได้เวลาเข้าสู่ Concept Ideation ที่ให้เยาวชนแชร์สิ่งที่เรียนรู้จริงจากสนาม หลายคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “พอลงมือทำจริง แทบไม่เหมือนที่คิดไว้เลย” ซึ่งนั่นคือหัวใจของการเรียนรู้ที่สำคัญมากที่สุดจากการลงมือทำ
ดังนั้นพี่ๆ เมนเทอร์จึงไม่เพียงแต่เป็นผู้ให้คำแนะนำ แต่ยังคอยมีบทบาทสนับสนุนและเชื่อมั่นให้เยาวชนคิดให้ไกลกว่าที่เคย พร้อมสนับสนุนให้กล้าลอง กล้าพลาด และกล้าแก้ใหม่
ในช่วงท้ายของวัน น้องๆ ได้เรียนรู้เรื่อง Minimum Viable Product (MVP) ซึ่งถือเป็นการทวนความเข้าใจอีกครั้งว่า
- 1. สิ่งที่คิดจะทำนั้นสอดคล้องกับปัญหาที่ตั้งไว้หรือไม่
- 2. สามารถทดลองหรือพัฒนาให้ง่ายกว่านี้ได้ไหม
- 3. มีเครื่องมือใดที่สามารถช่วยให้ก้าวแรกนี้ไปได้เร็วขึ้น
ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยการมอบหมายการบ้านเพื่อให้ลองไปคิดต่อ ได้แก่ ให้ลองวางแผนตั้งสมมติฐาน เก็บข้อมูล และลอง Validate Idea ออกมาให้มากกว่าหนึ่ง เพื่อนำมาสร้างสรรค์และคิดไอเดียต่อยอดที่ใช้ได้จริงต่อไป






แม้จะเป็นเพียงสุดสัปดาห์แรก แต่ TCF Dreamable 2025 ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ‘พลังของเยาวชน’ เมื่อได้พื้นที่ที่เหมาะสม พร้อมการโค้ชและชี้แนะที่ตั้งใจอย่างจริงจัง จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ไม่แพ้ใคร

และก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้าน คุณกัญญ์ชลา เดชานุภาพฤทธา กรรมการผู้จัดการมูลนิธิไทยคม ได้ฝากคำพูดส่งท้ายที่เปี่ยมด้วยพลังใจไว้ว่า
“ตื่นรู้ คิดได้ ทำเป็น คือหัวใจของโครงการนี้” โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อเยาวชนไทยได้ลงมือทำในสนามจริง พร้อมมีทักษะคิดเชิงระบบ พวกเขาจะสามารถเติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ และขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมั่นคง

เราจากกันอย่างตื่นเต้นที่จะได้พบเจอในนัดหมายครั้งต่อไปในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เมล็ดพันธุ์แห่งการเรียนรู้และลงมือทำ ได้เริ่มหยั่งรากตั้งแต่วันนี้แล้ว



